วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

รีวิวกินแบบเล็กๆ ตามไปลอง Gaggan ร้านอาหารอินเดียแนว progressive ไหนดูซิ แปลกจริงหรือ


หลังจากอ่านรีวิวร้าน Gaggan มาหลายรีวิว และปักหมุดไว้นานว่าร้านนี้ล่ะต้องไปลองให้ได้ ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ไปลองชิมซักที  ไม่รู้ว่าจริงๆต้องจองล่วงหน้าก่อนนานแค่ไหนนะคะ แต่เพื่อความชัวร์ เล็กโทรจองโต๊ะล่วงหน้าไปสองอาทิตย์ เล็กไปกินมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว ข้อมูลบางอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลง และเรื่องรสชาติอาจจะจำได้ไม่เป๊ะนะคะ



หน้าร้านค่ะ เหมือนบ้านหลังเล็กๆ อบอุ่น ใช้โทนสีขาว น่ารักดีค่ะ เป็นความรู้สึกที่ surprise นิดๆว่า นี่ร้านอาหารอินเดียจริงหรอ หน้าร้านมีบริการรับฝากรถแบบ valet parking ค่ะ


สั่งเสร็จ พนักงานก็เอา welcome drink มาให้ จำไม่ได้ว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง แต่ออกแนวน้ำผลไม้เปรี้ยวๆ หอมๆ ซ่านิดๆ


เริ่มกันที่จานแรก yoghurt chaat, samosa, spiced nut in an edible plastic bag, Pani Puri
ชอบตัวโยเกิร์ตค่ะ มันจะมีน้ำหุ้มอยู่ข้างนอก เอาเข้าปากแล้วแตกเปร๊าะ รสชาติเหมือนกินไข่ขาวผสมโยเกิต ซาโมซ่าก็อร่อยค่ะ เครื่องเทศไม่แรงเกินไป
แต่ตัวชอคโกแลตกลมๆนั้นมันช็อคมาก ตอนเอาเข้าปากไม่ทันตั้งตัว ข้างในมีน้ำรสผักชี (น่าจะใช่ รสแบบว่า อึ้ง)


Viagra ใส่มาในกล่อง เหมือนหีบสมบัติ
เปิดออกดู ตกแต่งได้อารมณ์ท้องทะเลมาก เป็นหอยนางรมที่เอาไปกริลก่อน กินคู่กับไอศกรีมรสกระเจี๊ยบ



Willi Wonka & The Foie Gras Factory
เสริฟมาสวยงาม ปริมาณน้อยนิด
Down To Earth เสริฟมาในก้อนหินแบบนี้เลย สมกับชื่ออาหารมากๆ
เปิดออกมาเป็นซุปเห็ด และและมีกลิ่น truffle หอมมาก



River King กุ้งแม่น้ำนำไปกริลกินคู่กับซอสมะม่วง ด้านบนเป็น curry leaf infusion 
กุ้งสดมาก เนื้อแน่นๆเด้งๆ แต่รสชาติเหมือนเน้นที่ตัวกุ้งเลยค่ะ เล็กว่าจริงๆแล้ว อาหารส่วนใหญ่รสชาติไม่ได้แปลกขนาดที่คิดไว้ เพราะเท่าที่ได้ลองมาจนถึงจานนี้ เหมือนเค้าเน้นที่ตัววัตถุดิบ ที่แปลกไปก็น่าจะเป็นการนำเสนอและวิธีการปรุง


Keema Pav (lamb Ragout) ตัวแป้งทำจากมะเขือเทศที่ทำให้แห้ง (tomato dehydrated bread) ด้านในเป็นไส้แกะสับผสมเครื่องแกงส่วนตัวอันนี้ไม่ค่อยปลื้มค่ะ ไม่ค่อยโดดเด่น รสชาติค่อนข้างธรรมดา
 


มาถึงขนมหวานแล้วค่ะ จานนี้ชื่อ Mom's Love
Hot Carrot Mousse with Saffron and with 100% Silver  ชอบตรงที่มันไม่หนักและหวานเกินไป รสมูสแครอทนุ่มเบา จานนี้อร่อยงงๆ ค่ะ


Divine
mango with cardamom ice cream and almond saffron soil
ไอศกรีมใบกระวาน ราดด้วยซอสมะม่วง ด้านบนโรยผงอัลมอลด์ อันนี้ชอบมากค่ะ รสและเนื้อสัมผัสเบาๆ จบมื้อหลังอาหารได้ดีแก้เลี่ยน ไม่หนักท้อง


พาไปกินอาหารอินเดียอร่อยๆ ที่ Himali Cha Cha


ชอบร้านนี้เพราะ ราคาอาหารไม่แพงมาก สมเหตุสมผล อาหารอร่อย มาทุกครั้งไม่เคยผิดหวัง บริการดี ไม่คิด service charge 
บรรยากาศในร้าน ร้านจะเปิดเพลงแนวอินเดียนะคะ ให้บริการสองช่วงเวลา คือ ช่วงเที่ยง ประมาณ 11-14.30 น. และพัก เปิดอีกทีช่วงเย็นไม่รู้กี่โมง  เดินทางสะดวกค่ะ  ร้านอยู่ซอย สุขุมวิท 31 ต้นซอย ทางขวามือ ตรงข้ามกับโรงแรม S31 มีที่จอดรถให้บริการค่ะ  เข้ามาในร้านอาจจะดูทึมหน่อย แต่ จขกท. ชอบนั่งริมหน้าต่าง มองออกไปเห็นสวน มีสระน้ำ ดูสบายตามากค่ะ

ไปทุกครั้ง ทางร้านจะบริการออเดิร์ฟ เป็นแผ่นแป้งกรอบๆ เค็มๆ กินกับ ซอสสีเขียวเปรี้ยวๆ สีน้ำตาลจะหวานๆ หน่อย และกระเทียมดอง แต่ไม่มีกลิ่นกระเทียมเลยค่ะ รสออกเปรี้ยวๆ ครั้งนี้ไปกินกัน 3คน ก็ให้แผ่นแป้งมาสามแผ่น  แผ่นแป้งนี่ขอเพิ่มได้นะคะ เคยขอเพิ่มเหมือนทางร้านจะคิดมา 20 บาท

อาหารที่สั่งก็ นี่ก่อนเลย นาน ธรรมดา และนานชีส เอาไว้กินกับแกง มีนานหลายชนิดค่ะ เช่นกระเทียม ชีส  นานธรรมดาราคาถูกสุด ขนมปังแบบอื่นก็มี โรตี แล้วแต่จะสั่ง

appetizer ครั้งนี้สั่ง onion brajee เป็นหอมเอาไปใส่เครื่องเทศ ยำๆ แล้วชุบแป้งทอด

อันนี้ เป็น tikka chicken mint อะไรสักอย่าง เสิร์ฟพร้อมหอมใหญ่ บีบมะนาว ไก่จะใช้ส่วนอก หมักมานิ่ม รสเปรี้ยว แต่ จริงๆ จขกท. ชอบ จานไก่อีกแบบมากกว่า รู้สึกจะชื่อ chicken tunduri mint  ประมาณนี้ เขาจะใช้ไก่ทั้งตัว มีกระดูก แต่หมักไว้นิ่มกว่าจานนี้ รสชาติคล้ายๆ กัน

จานนี้ chicken masala ก็เป็นแกงไก่ ไม่ค่อยเผ็ด อร่อยดีค่ะ 

จานนี้มาทุกครั้งสั่งทุกครั้ง palak paneer แกงผักโขมปี่นใส่ชีสโฮมเมด ไม่เผ็ดนะคะจานนี้ รสจะครีมมี่หน่อย 


รวมอาหารมื้อนี้ มีเครื่องดื่มอีก ประมาณ 1200 บาท 
ก่อนกลับจะมีน้ำอุ่นใส่มะนาวมาให้ล้างมือด้วยค่ะ







บุปเฟ่ต์ร้านอาหารอินเดีย SPICY BY NATURE ด้วยราคาเพียงแค่ 180+ เท่านั้น!!!!


เริ่มแรกก็ประเดิมด้วย Salted Lassi หรือก็คือโยเกิรต์สดใส่เครื่องเทศหลากหลายทั้งขิง สาระแหน่ และพริกเขียว (ที่ร้านนี้ทำโยเกิร์ตสดๆทุกวันนะคะ)
รสชาติเค็มๆเผ็ดๆแล้วมีรสเปรี้ยวแฝงตามหลัง มีกลิ่นเครื่องเทศหลายชนิด ผสมกันกับรสเค็มมาจากเกลือดำ กินแล้วรสชาติสดชื่นกระตุ้นดีมาก นอกจาก Salted (เค็ม) ยังมีแบบหวานกับมะม่วงให้เลือกด้วยนะคะ

ต่อมาก็มาถึงจานหลักกันนะครับ ทั้งชุดนี้ประกอบไปด้วยแกง ข้าว แป้งนาน สลัด และโยเกิร์ต
ทั้งชุดนี้ถ้าไม่บุปเฟ่ต์จะราคา 180+ บาท
ถ้าบุปเฟ่ต์ก็เติมได้ไม่อั้น ซึ่งช่วงเวลาบุปเฟ่คือ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ มื้อเย็น
เริ่มแรกก็ชิมข้าวก่อนครับ ที่นี่มีให้เลือกว่าจะเอาข้าว Basmati เป็นข้าวของอินเดียที่มีลักษณะเม็ดเรียวยาวหรือข้าวหอมมะลิได้
ผมเลือกข้าวBasmati หมกผักซอสหัวหอมมะเขือเทศใส่ขิงกับดอกกระหล่ำและอื่นๆ
รสชาติ....หอมและนุ่มมากครับ รสชาติค่อนข้างอ่อน แต่อร่อยโดยเฉพาะดอกกระหล่ำที่หวานและแทบจะละลายในปาก !! ยกนิ้วให้เลย 
ลองชิมผัดดอกกระหล่ำรสแกงกะหรี่ 
นิ่ม หวาน ผักนุ่มมากกกกกกก นี่มันรสชาติความอร่อยที่แท้จริงของดอกกระหล่ำ!!
ต่อไปก็มาต่อกับของเด็ดที่สุด
แกงกะหรี่ไก่ Butter Chicken Masala!! 
รสเปรี้ยวหวานที่ได้จากหัวหอมและมะเขื้อเทศผัด!! 
ไก่ที่รสชาติชุ่มฉ่ำเนื้อไม่แห้ง!!
รสชาติแกงที่เผ็ดอ่อนๆหอมเครื่องเทศกับกลิ่นเนย!!

เห็น Mango Lassi น่าสนใจดี เลยสั่งมาชิมดู อร่อยมากครับ
รสชาติมะม่วงสุกหวานเข้ากันได้ดีกับโยเกิร์ตสดๆ 
กินเย็นๆกับน้ำแข็งนี่มัน อร่อยจริงๆ 

ตบท้ายด้วยของหวานที่คนไทยรู้จักมากที่สุดในบรรดาของหวานอินเดีย
กุหลาบจามุญ !!  ทำจากครีมชีสที่บดปั้นเป็นก่อนแล้วมาทอดให้ร้อน จากนั้นกินกับน้ำเชื่อมไซรัป
แต่ที่นี่จะพิเศษกว่าที่อื่น คือจะใส่ แชฟรอน และโรยถั่วพิสตาจิโอลงไปด้วย 
แชฟรอนเป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่งที่ให้สีเหลืองและมีกลิ่นเฉพาะ เป็นเครื่องเทศที่ติดแพงที่สุดในโลกในปัจจุบัน 
ได้กินกุหลาบจามุญตั้งหลายที่แล้วนะ.... ที่นี่อร่อยที่สุดแล้วจริงๆที่อื่นจะกินแล้วมันเหมือนเป็นทรายๆ
ที่นี่จะเรียบลื่นลงคอไปเลย และมีกลิ่นของหอมแรงแผ่ออกมาด้วย
เป็นการตบท้ายที่น่าประทับใจมาก


ร้านอาหาร SPICY BY NATURE ตั้งอยู่ใต้คอนโด The Station นะครับ ถ้าเดินเข้ามาจากทางถนนเจริญกรุงข้างวัดสุทธิวรารามประมาณ 40 เมตร ใกล้รถไฟฟ้าBTS สะพานตากสิน
บุปเฟ่ต์มีเฉพาะมื้อเย็น ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ราคา 180+ ไม่รวมเครื่องดื่มกับของหวาน ถ้าไปนอกเวลาจะมีอาหารชุดให้ 







 
ร้าน Indian Food ริมถนนเจริญนคร

ร้านนี้เราไม่ได้ค้นพบโดยตัวเองนะคะ แต่ว่ารุ่นพี่ที่รู้จักกันเค้าแนะนำมาว่าอร่อย เป็นร้านที่อยู่แถว ๆ คอนโดของพี่เค้า พี่เค้าบอกว่าร้านนี้ไม่ค่อยมีคนกิน อยากแนะนำให้ไปกินกัน เนื่องจากสถานที่ตั้งร้านเป็นทางผ่านกลับบ้านเราเอง (เราก็ยังงงเลยว่าทำไมไม่เคยเห็น -*-) 

ร้านเป็นร้านคูหาเดียว ทาสีเขียว ตั้งอยู่ริมถนนเจริญนคร อยู่ระหว่างซอย 17-19 ถ้ามาจากคลองสานก็เลยท่าเสริมสุขนิดนึง พอผ่านสามแยก เห็นสะพานลอยเมื่อไหร่ก็เตรียมชิดซ้ายได้เลยค่ะ

เกริ่นนานมากกกกก เราเริ่มรีวิวอาหารเลยนะคะ
เริ่มแรกเราสั่งแกงกันก่อนเลยค่ะ
ที่สั่งมาคือ
"มาซาล่ากุ้ง" << อันนี้แนะนำจริง คืออร่อยมากกกก กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่มาก ให้มาสามตัว รสชาติเผ็ดนิดๆ กินกับแป้งนานยิ่งฟิน
"คอร์มาไก่" อร่อย หวานๆ มันๆ เพื่อนที่ไม่กินเผ็ดชอบมาก แต่เรารู้สึกว่ามันเลี่ยนไปนิดนึงเวลากินเยอะๆ 55
แกงที่สามนี่ 
ชื่อ วินดาลู ค่ะ สั่งเป็นเนื้อไก่
แล้วก็สั่งไก่ทันดูรีมา อร่อยมากค่ะ กินกับแกงจะเพิ่มความฟินยิ่งขึ้น
อย่างต่อไปคือข้าวมะนาว อันนี้ไม่แนะนำค่ะ กินเปล่าๆไม่ถูกปากอย่างแรง รสเหมือนข้าวเปล่าๆเอามาบีบมะนาวใส่
แต่กินกับแกงก็ฟินอยู่ค่ะ
พระเอกที่เอามากินกับทุกอย่างวันนี้คือ แป้งนาน แป้งนานที่นี่มีหลายอย่าง
ที่สั่งมา มี ชีสนาน กับ อาลูนาน (Aloo Naan) อร่อยมากกกก โดยเฉพาะอาลูนานอร่อยมาก เป็นมันฝรั่งยัดในแป้งนาน หอมเนยสุดๆ



อาหารราคาน่ารักเป็นกันเอง ไม่แพงค่ะ
อร่อย พนักงานบริการดีนะคะ ถึงจะสือสารกันไม่รู้เรื่องบ้าง 

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2559

สวัสดีค่ะ เราชื่อ สโรชา ศรีอ่วม หรือเรียกอีกชื่อว่า โรส ตอนนี้เราอยู่ปี 4 เมื่อขึ้นชื่อว่าอาหารต่างประเทศ คนอย่างเรา ๆ ก็จะคิดถึงแต่อาหารญี่ปุ่น จีน หรือ อาหารฝรั่ง เพราะว่าหาทานง่า แต่วันนี้เราจะขอมาแนะนำ อาหารต่างชาติแปลก ๆ ที่เราก็เพิ่งเคยกินเป็นครั้งแรกแล้วก็ติดใจจนไปกินซ้ำค่ะ อาหารที่ว่านั่นก็คืออาหารอินเดีย แต่ก่อนที่เราจะไปรีวิวอาหารอินเดียแต่ละร้านนั้น เราต้องมาทำความรู้จักอาหารอินเดียคร่าวๆกันดีกว่าค่า



อาหารอินเดีย เป็นชื่อเรียกโดยรวมของอาหารในอนุทวีปอินเดียซึ่งมีลักษณะร่วมกันคือใช้เครื่องเทศ สมุนไพรและผักหรือผลไม้มาก มีทั้งพืชผักที่ปลูกในประเทศอินเดียและจากที่อื่นๆ นิยมกินอาหารมังสวิรัติในสังคมชาวอินเดีย แต่ละครอบครัวจะเลือกสรรและพัฒนาเทคนิคการทำอาหารทำให้มีความแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางด้านประชากรในอินเดีย
ความเชื่อของชาวฮินดูและวัฒนธรรมมีบทบาทต่อวิวัฒนาการของอาหารอินเดีย. แต่ในภาพรวม อาหารทั่วประเทศอินเดียพัฒนามาจากปฏิสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมทั้งจากชาวมองโกลและยุโรปทำให้ได้อาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง การค้าเครื่องเทศระหว่างอินเดียและยุโรปเป็นตัวเร่งหลักสำหรับการค้นพบอินเดียของชาวยุโรป ยุคอาณานิคมได้ทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างอาหารยุโรปกับอาหารอินเดียเพิ่มความยืดหยุ่นทำให้เกิดความหลากหลายมากขึ้น อาหารอินเดียมีอิทธิพลต่ออาหารทั่วโลกโดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และหมู่เกาะแคริบเบีย


เครื่องปรุงที่โดดเด่นของอาหารอินเดีย ได้แก่ ข้าว, อัตตะ (atta) (แป้งสาลีโฮลวีท) และเมล็ดถั่วหลายชนิด ที่สำคัญได้แก่ masoor (ส่วนใหญ่เป็นเม็ดถั่วเลนทิลสีแดง) channa (ถั่วเขียวเบงกอล) toor urad และถั่วเขียว เมล็ดถั่วอาจรับประทานทั้งเม็ด แบบเป็นซีก หรือทำเป็นแป้ง
แกงแบบอินเดียส่วนใหญ่ปรุงด้วยน้ำมันพืช ในภาคเหนือและตะวันตกของอินเดียนิยมน้ำมันถั่วลิสงสำหรับการทำอาหารในขณะที่ในภาคตะวันออกของอินเดียมีการใช้น้ำมันมัสตาร์ดมาก น้ำมันมะพร้าวใช้กันอย่างแพร่หลายตามแนวชายฝั่งตะวันตกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐเกรละ น้ำมันงานิยมทั่วไปในภาคใต้ ในปัจจุบัน น้ำมันเมล็ดทานตะวันและน้ำมันถั่วเหลืองได้รับความนิยมทั่วไปในอินเดีย เนยเทียมหรือที่เรียกว่า ghee Vanaspati เป็นที่นิยมมากขึ้น ฆีหรือแบบดั้งเดิมกำลังใช้งานน้อยลง
เครื่องเทศที่สำคัญและใช้บ่อยในอาหารอินเดียมีพริกขี้หนู เมล็ดมัสตาร์ดสีดำ (raiยี่หร่า (jeeraขมิ้นชัน (haldimanjal) เมล็ดฟีนูกรีก (methiขิง (adrak,injiผักชี (dhania) และกระเทียม (lehsunpoondu) เครื่องเทศผสมที่นิยมคือการัม มะสะล่า garam masala ผงที่มักจะมีเครื่องเทศแห้งห้าอย่างหรือมากกว่าโดยเฉพาะ กระวาน อบเชย และกานพลู Goda masala เป็นเครื่องเทศผสมที่คล้ายกันเป็นที่นิยมในรัฐมหาราษฏระ ใบไม้ที่ใช้โดยทั่วไปคือใบกระวาน ใบผักชี ใบฟีนูกรีก และใบสะระแหน่ พบในอาหารอินเดียใต้ อาหารหวานนิยมปรุงรสด้วยกระวาน, หญ้าฝรั่น ลูกจันทน์เทศและกลิ่นกุหลาบ

อินเดียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมในแต่ละภูมิภาค ซึ่งมีอาหารจานพิเศษเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ความแตกต่างอาจจะมาจากวัฒนธรรมท้องถิ่นและภูมิศาสตร์ว่าอยู่ใกล้กับทะเล ทะเลทราย หรือภูเขา รวมทั้งสถานะทางเศรษฐกิจ อาหารอินเดียนี้ยังขึ้นตามฤดูกาลอีกด้วยสำหรับส่วนผสมที่เป็นของสด
โดยอินเดียทางตอนเหนือ จะนิยมบริโภคโรตี อินเดียทางตอนใต้จะนิยมบริโภคข้าว โดยข้าวที่นิยมกันมากที่สุดในอินเดีย คือ ข้าวบาสมาติ (basmati) ซึ่งเป็นข้าวที่มีลักษณะเม็ดเรียวยาว

  และนี้ก็เป็นที่มาของอาหารอินเดียนะคะ ครั้งหน้าเราจะพาไปชิมอาหารอินเดียอร่อยๆร้านไหนนั้น ฝากติดตามด้วยนะคะ สำหรับวันนี้ขอเวลาไปหาร้านอาหารอินเดียอร่อยๆมาอวดเพื่อนๆก่อนนะคะ บะบายค่า

แหล่งที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2